นิตยสาร “รูฯ” ฉบับนี้เป็นฉบับแรกที่ได้จัดพิมพ์ และตอนนี้ก็ได้ดำเนินมาถึงบทส่งท้ายกันแล้ว หวังว่า นิตยสารฉบับนี้จะทำให้นักอ่านทุกคนรู้จักมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีมากขึ้น โดยการสอดแทรกความรู้ ความสนุกสนาน และแรงบันดาลใจ เพื่อช่วยในการตัดสินใจแก่ผู้อ่านในการเลือกเรียนคณะสาขาในวิทยาเขตแห่งนี้ โดยนิตยสารได้แยกเนื้อหาออกเป็นหมวดหมู่เพื่อความสะดวกในการอ่าน ซึ่งในแต่ละหมวดหมู่ก็มีโทนอารมณ์แตกต่างกัน โดยมีน้องรูเก้าเป็นผู้ดำเนินเรื่องราว ทั้งนี้ ขอขอบคุณน้องรูเก้าในฐานะผู้ดำเนินการเล่าเรื่อง ขอขอบคุณคณะภายในมหาวิทยาลัยที่ให้การสนับสนุนสำหรับภาพสวยๆ ผู้สัมภาษณ์ทุกท่านที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทีมงานทุกคนที่ตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง อาจารย์ประจำวิชาที่ให้การสนับสนุนรวมถึงคำแนะนำอย่างดีเยี่ยม และบุคคลที่ขาดไม่ได้คือ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เลือกหยิบนิตยสารลงรูฉบับนี้และติดตามกันมาตั้งแต่ต้นจนจบ สุดท้ายนี้นิตยสารขออวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านประสบความสำเร็จในสิ่งที่ใฝ่ฝันเอาไว้ ชาวมหาลัยทุกคนจะรอต้อนรับน้องใหม่อย่างใจจดใจจ่อ และขอฝากแปดคณะไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของนักอ่านทุกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

Scary Mode : วันดีเดย์, เฮี้ยนหอห้ามอตานี สำหรับเรื่องแรกที่น้องรูเก้าจะนำมาเล่าสู่กันฟังนั่นก็คือ ตำนานรับน้อง วจก. หรือ วัน D-DAY “คนมีประวัติ สถานที่ก็มีประวัติเช่นกัน” โหมดแรกของรูลับๆ มาพบกับช่วงเรื่องเล่าขนหัวรุกกับน้องรูเก้ากันนะฮะ อย่างที่น้องบอกไปตอนต้น คนมีประวัติ สถานที่ก็มีประวัติเช่นกัน และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แห่งนี้ก็มีประวัติสุดสยองขวัญมาสั่นประสาทท่านผู้อ่านทุกคนให้คนลุกขนพองไปกับน้องรูเก้า ซึ่ง ม.อ. เป็นมหาวิทยาลัยที่มีตำนานเกี่ยวกับเรื่องผีมากมายไม่แพ้มหาวิทยาลัยอื่นๆ เลยนะฮะ แต่ละเรื่องก็น่ากลัวทั้งนั้น บางเรื่องก็มีผู้ประสบพบเห็นมาแล้ว บรึ๊ย! หลายคนคงเคยดูภาพยนตร์เรื่อง รับน้องสยองขวัญ มาบ้างแล้ว และตำนานนี้ก็หลอนไม่แพ้กัน โดยเรื่องมันเริ่มวันที่ 16 กรกฎาคม ของหลายปีมาแล้ว รุ่นพี่นักศึกษาบัณฑิตคณะวิทยาการจัดการ หรือ วจก. ต้องไปนั่งรสบัสไปรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อรสบัสของรุ่นพี่คว่ำตกข้างทาง ทำให้รุ่นพี่ วจก. เสียชีวิตหลายสิบราย เรื่องไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะในวันที่ 16 กรกฎาคมของทุกปี น้องใหม่ วจก. บางคนจะเจอรุ่นพี่บัญฑิตที่เสียชีวิตไปจะมาล้อมวงบูมต้อนรับรอบเตียงน้องใหม่ บ้างก็มาดูหน้าตาหลานรหัส บ้างก็มาทักทาย ซึ่งมันมักเกิดเรื่องแบบนี้ทุกปี ไม่เพียงแค่รุ่นน้องคณะ วจก. จะเห็นพี่บัญฑิตเท่านั้นนะฮะ เพื่อนเมทห้องเดียวกันมีโอกาสเห็นด้วย ทำให้เพื่อนเมทของน้องใหม่ วจก. จะทำทุกวิถีทางเพื่อเลี่ยงการพบเจอพี่บัญฑิตที่เสียชีวิตไปแล้ว บางคนกลับบ้านในคืนวันที่ 16 กรกฎาคม บางคนเอาสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับคณะวิศวะมาตั้งไว้ในห้อง เนื่องจากคณะวิศวะจะไม่โดนรุ่นพี่หลอกหลอน เพราะตอนที่รสบัสของพี่บัญฑิต วจก. ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ มีเพียงคณะวิศวะที่ผ่านเข้ามาช่วยเหลือเท่านั้น ซึ่งน้องรูเก้าคิดว่าคงเป็นการขอบคุณ เลยไม่มาปรากฏตัวให้เห็นนั่นแหละฮะ แบบนี้แล้วนักศึกษา วจก. คงต้องหา แฟนคณะวิศวะแล้วสิเนี่ย ถึงแม้ว่าเรื่องราวนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นใน ม.อ.ปัตตานี โดยตรงแต่เส้นทางที่เข้ามา เขาอาจจะตามเรามาก็ได้... เรื่องแรกจบกันไปแล้ว น้องรูเก้าเพิ่งคิดได้ว่า ถ้าน้องรูเก้าเป็นน้องใหม่คณะวิทยาการจัดการ แล้วเจอพี่บัญฑิต น้องรูเก้าอยากจะขอให้รุ่นพี่บอกหวยก็ดีน้า อ๊ะ! ไม่ได้สินะฮะ น้องรูเก้าเป็นเด็กดีไม่เล่นการพนัน นักอ่านทุกคนต้องเป็นเด็กดีเหมือนน้องรูเก้านะฮะ งั้นเรามาต่อกันเรื่องสุดท้ายกันเถอะ น้องรูเก้าได้ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งขอใช้นามแฝงว่า “พี่เอ” ที่เคยอยู่หอห้ามาก่อน ซึ่งจะขอนำเรื่องเล่าของพี่เอมาแบ่งปันให้ท่านนักอ่านกันนะฮะ ปีนั้นรุ่นพี่เพิ่งเข้าหอในใหม่ๆ ตอนที่พี่เข้าหอวันแรก พี่ต้องซักผ้าตากผ้าตอนเย็นหลังจากผู้ปกครองของพี่เข้าไปแล้ว หลังจากซักเสร็จ เด็กหอห้าทุกคนจะมีราวตากผ้าอยู่หน้าลิฟต์แดงทุกชั้น รุ่นพี่อยู่ชั้นสอง เธอเอาผ้าไปตากที่หน้าลิฟต์ ในตอนนั้นไม่มีใครเอาผ้ามาตากเลย เธอก็คิดว่าดีเหมือนกันจะได้มีเนื้อที่ในการตากผ้าเยอะๆ ซึ่งตอนนั้นเธอยังไม่รู้เรื่องราวความสยองขวัญ และในตอนที่เธอกำลังตากผ้า มีเด็กหอห้าสองคนเดินขึ้นมาชั้นสอง เธอบอกว่าเธอสังเกตเห็นพฤติกรรมที่สองคนนั้นมองมา พวกเขามองมาแล้วกระซิบกัน เผอิญว่ารุ่นพี่ได้ยินเด็กสองคนนั้นพูดว่า “กล้าเนอะ” ซึ่งประโยคนี้ทำให้รุ่นพี่สงสัยมาก เลยไปถามเพื่อนเมทแล้วก็รู้มาว่า ลิฟต์แดงหน้าราวตากผ้าเคยมีนักศึกษาตายในลิฟต์ เนื่องจากลิฟต์หยุดการทำงาน และเวลาเดินขึ้นบันไดหรือมองไปยังลิฟต์แดงนั้น ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ เพราะทุกครั้งที่มองไป รุ่นพี่มักจะเสียวสันหลังทุกที เรื่องไม่จบเพียงเท่านั้น หลังจากผ่านไปหลายเดือน คืนหนึ่งรุ่นพี่บอกว่า รุ่นพี่ฝันว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในห้องของตัวเอง แล้วเดินเข้าห้องน้ำ เนื่องจากหอห้าทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว ซึ่งห้องน้ำของรุ่นพี่จะสะดวก กระจกจะอยู่ตรงกันข้ามกับประตูพอดี พอเดินเข้าไปก็จะเห็นเงาตัวเอง รุ่นพี่บอกว่าเงาของเธอในกระจกเป็นเงาเธอจริงๆ แต่มันมีสิ่งที่แปลกไป ดวงตาสองข้างของเธอมันแดงผิดปกติ ตาขาวของเธอมีเลือดสีแดงคั่งเหมือนเส้นเลือดในตาแดง รุ่นพี่บอกว่าเธอมักจะฝันประหลาด แต่ไม่ได้ฝันบ่อยๆนะฮะ รุ่นพี่บอกว่านานๆ ครั้งถึงจะฝันแบบนั้น รุ่นพี่บอกว่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่า รุ่นพี่ไปทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า หรือ ไม่ได้กราบไหว้เจ้าที่ก่อนหรือเปล่า เนื่องจากรุ่นพี่เป็นชาวพุทธฮะ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะฮะ สุดท้ายก่อนจากกันใน Scary Mode น้องรูเก้าได้ยินเรื่องเล่ามาจากหมู่เพื่อนพูดกันว่า ถ้าอยากเจอรุ่นพี่ที่ตายในลิฟต์ ให้เอาดอกกุหลาบหนึ่งดอกไปวางหน้าลิฟต์ แล้วคืนนั้นถ้าโชคดีเขาจะมาหา บรื้ออ! น่ากลัวจังเลยฮะ น้องรูเก้าไม่กล้าหาญขนาดนั้น ถ้าเจอรุ่นพี่เขาจริงๆ น้องรูเก้าจะขอหวย เอ้ย! พูดผิดฮะ น้องรูเก้าจะทำบุญไปให้นะฮะ อย่ามาหลอกน้องเลยนะฮะ น้องจะเป็นเด็กดีของนักอ่านทุกคน Strange Mode : พระบิดา ม.อ.ปัตตานี, I AM OFO ทุกคนเคยสงสัยไหมฮะ ทำไมสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หรือพระบิดาของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เด็กมออื่นชอบถามเด็กมอนี้ว่า ทำไมชื่อย่อมหาลัยถึงเป็น “ม.อ.” ทั้งที่ชื่อ “มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” เพราะมหาลัยใช้นามย่อของ “สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร” มาตั้ง “สงขลานครินทร์” เป็นพระยศของสมเด็จพระ มหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกส่วน “มหิดล” เป็นพระนามของพระองค์ท่าน จึงย่อตัว “อ” ในพระนามท่านนั่นเอง ชื่อภาษาอังกฤษคือ Prince of Songkla University แปลว่า “มหาวิทยาลัย เจ้าชายแห่งสงขลา” วันคล้ายทิวงคตของพระองค์ท่านคือ วันที่ 24 กันยายนของทุกปี เป็น “วันมหิดล” นักศึกษาทั้ง 2 มหาวิทยาลัยและบุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นวันสำคัญ ในส่วนของวิทยาเขตปัตตานีของเราถึงเป็นรูปปั้นทรงยืน แต่วิทยาเขตอื่นกลับเป็นรูปปั้นทรงนั่ง น้องรูเก้าขอสวมบทเป็นยอดนักสืบจิ๋ว จะมาไขปริศนานี้ให้กระจ่างเอง เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นฮะ ! เหตุที่พระบิดาของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีเป็นรูปปั้นทรงยืน เพราะสมัยก่อนวิทยาเขตปัตตานีเป็นวิทยาเขตแรกของ ม.อ. ได้สร้างพระบิดาทรงยืนขึ้นมา แต่ต่อมาเมื่อมีวิทยาเขตอื่นๆ ก่อตั้งขึ้น และเห็นว่าการสร้างรูปปั้นทรงยืนไม่เหมาะสมเท่าไหร่ จึงประกาศให้วิทยาเขตอื่นๆ สร้างรูปปั้นทรงนั่ง ส่วนวิทยาเขตของเราจึงได้รับอภิสิทธิ์พิเศษไปฮะ สีประจำมหาวิทยาลัยคือ “สีบลู” ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือ “ดอกศรีตรัง” เดิม ม.อ. ก่อตั้งครั้งแรกที่ปัตตานี แต่ไอทะเลทำให้เครื่องมือวิทยาศาสตร์เสียหาย จึงขยายวิทยาเขตไปที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา น้องรูเก้าภูมิใจแทนทุกคนที่ได้เป็นลูกพระบิดาสงขลานครินทร์นะฮะ ส่วนเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่งที่น้องรูเก้าจะขอนำเสนอเป็นเรื่องแปลกในปัจจุบันที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน นั่นคือปรากฏการณ์จักรยานสีเหลือง (ofo) นักอ่านทุกท่านลองคิดกันดูสิฮะ มหาลัยของเราเป็นมหาลัยแปลกที่มีจักรยานสุดไฮเทคให้ยืมใช้ ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้ แถมนักศึกษายังฮิตกันใช้รถจักรยานมากกว่ารถจักรยานยนต์ และจะเห็นจักรยานคันสีเหลืองวิ่งเต็มถนนใน ม.อ. ฟิ้ว! จักรยานวิ่งผ่านไป ยิ่งมันเป็นคันสีเหลืองยิ่งเด่น อาจจะเด่นเทียบเท่า เดอะแฟรชสีแดง จาก I am the Flash น้องรูเก้าคิดว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้ขอเรียกว่า I am the ofo! สำหรับรูลับๆ ก็ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้ว น้องรูเก้ายังขนลุกขนพองอยู่เลย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ไม่ได้มีเพียงเรื่องสยองขวัญแค่สองเรื่องเท่านั้นนะ เพราะยังมีเรื่องราวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นตำนานตึก 19 หรือแม้กระทั่งหอดูนก อ้ะๆ ถ้าหากใครอยากอ่านเรื่องเล่าสยองขวัญอีก โอกาสหน้าน้องรูเก้าจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกนะฮะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่ากลัวและเรื่องแปลก รับรองว่าจะต้องขนหัวลุกกันแน่ๆ ฉะนั้นรูลับๆ ฉบับนี้ขอจบลงตรงนี้ น้องรูเก้าของตัวลาไปก่อนนะฮะ แล้วเจอกันใหม่นะฮะ

“รูเช็คอิน” ในหนังสือ รูฯ นี้ น้องรูเก้าจะพาท่านผู้ชมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นลูกเด็กเล็กแดง สตรี สุภาพบุรุษ รวมถึงมนุษย์ทุกเพศทุกวัย ไปค้นหา สถานที่น่าปักหมุดใน ม.อ.ปัตตานีกัน แต่เอ๊ะ! ใน ม.อ.ปัตตานี จะมีอะไรน่าปักหมุดบ้างน๊า บอกเลยว่า ม.อ.แห่งนี้ไม่ใช่แค่สถานศึกษา แต่มีสถานที่ ที่น่าสนใจ จนต้องขยายปอดสูดลมหายใจ แล้วเช็คอินในเขตบริเวณ ม.อ.ปัตตานี และเด็ดไปกว่านั้นแต่ละสถานที่ชอบมีผู้คนมาแวะเวียนกัน ผู้อ่านที่สนใจจะไปเช็คอิน คงจะได้ทั้งบรรยากาศและเพื่อนๆแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปปักหมุดจุดสตาร์ทกันดีกว่า #รูเช็คอิน 16 จุด 1st น่านน้ำเเห่งวิทยาการสื่อสาร ปักหมุดจุด สตาร์ทที่ คณะวิทยาการสื่อสาร เอ๊ะ! แล้วทำไมน้องรูเก้าถึง อยากจะปักที่คณะวิทยาการสื่อสาร เป็นหมุดแรกล่ะ อ๋อ! บอกเลยว่า คณะนี้เป็นคณะที่อยู่ติดกับริมคลอง บึงที่สวยงามแห่งหนึ่งใน ม.อ.ปัตตานี รู้มั้ยว่าคลองแห่งนี้ เป็นคลองแห่ง วสส.เชียวน๊า แต่อย่าเผลอลงไปว่ายน้ำละ เพราะว่าสีและกลิ่นอาจจะทำให้ร่างกายมึนได้ แต่อยากให้ผู้ที่ได้อ่านได้มาเปิดเลนส์ ส่องมนุษย์กัน เพราะวิวทิวทัศน์ในคลองบึงแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นกกขึ้นมากมาย มันดีมากจร้า มันสวย ถ่ายยังไงก็สวย ลองปรับค่า F ต่ำๆ โอโห! เช็คอินเลยฮะ 2nd สถาบันศึกษากัลยาณิวัฒนา ย่างเท้าจากคณะวิทยาการสื่อสารอีกนิดก็จะเจอ สิ่งก็สร้างก้อนใหญ่สีขาว นั่นแหละคือ “สถาบันศึกษากัลยานิวัฒนา แห่ง ม.อ. ปัตตานี” มีที่เดียวในโลกนะจ๊ะ รู้ไว้! ภายนอกอาจจะไม่ค่อยมีอะไรแต่ภายใน ล้ำค่ามาก แต่ไม่ต้องเสียใจ น้องรู เก้า จะนำไปชมกับภาพสวยๆ เป็นไงกันบ้าง เห็นแล้วอยากจะตีตั๋วมาชม ผลงานศิลปะกันเลยทีเดียว รู้หรือไม่ว่า หน้าอาคารทุกสถาบัน มีแท่นเหล็กสูง แล้วมีน้ำล้อมรอบ นั่นคือ เค้าปั้นเป็นรูปอะไร น้องรูเก้าบอกได้เลยว่า “ทุกคนมีสิทธิ์คิดและจินตนาการ” 3rd เรือนอำมาตย์ พิพิธภัณฑ์เรือนอำมาตย์โทพระยาพิบูลย์พิทยาพรรค ตั้งอยู่ภายในสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา ทางสถาบันฯได้รับมอบเรือนอำมาตย์โทพระยาพิบูลย์พิทยาพรรค จากนั้นได้รื้อย้ายมาสร้างไว้ ณ สถาบันฯ อำมาตย์โทพระยาพิบูลย์พิทยาพรรคเป็นข้าหลวงของเมืองปัตตานี เรือนหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2476 โดยช่างชาวจีน เป็นเรือนไม้ที่สะท้อนให้เห็นความสามารถของเจ้าของบ้านและช่าง ในการผสมผสานวัฒนธรรมไทยและตะวันตกได้อย่างกลมกลืน ควรค่าสำหรับการเช็คอินกันเลยฮะ 4th คลองสองร้อย น่านน้ำที่อยู่คู่ ม.อ.ปัตตานี มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คงหนีไม่พ้น “คลองสองร้อย” เอ๊ะ! ทำไมเรียก คลองสองร้อยหรือ คนสร้างสองร้อยคนบลาๆๆๆ แต่สถานที่แห่งนี้เหมาะกับการพาคู่รักมาถ่ายภาพ ก็จะสวยมาก Pre Wedding ยังถือว่า Premium สุดๆ แต่ผู้อ่านเคยรู้หรือไม่ว่า เวลาตีห้า จะมีแสงสีม่วงออกมา ซึ่งสวยมาก ซึ่งน้องรูเก้านำมาให้ผู้อ่านได้รับชมกัน สวยใช่มั้ยล๊า งั้นตื่นมาเช็คอินที่นี่เลย! 5th สะพานสหัสวรรษ น้องรูเก้าเชื่อว่า นักศึกษาที่เรียนใน ม.อ.ปัตตานี ไม่มีใครไม่เคยเดินข้ามสะพานแห่งนี้ คงไม่มีใครเดินอ้อม แต่ก็คือที่เดียวกับคลองสองร้อย ริมคลองก็จะมีคนมานั่งอ่านหนังสือ นั่งทานอาหารกันเยอะแยะเลย ฟินเลยทีเดียว น้องรูเก้ายังเคยมานั่งเลย แต่เสียดายที่น้องรูเก้าไม่มีคู่ มิเช่นนั้นฟินกว่านี้อีก แต่ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีคู่หรือไม่มี แต่สิ่งที่มีคือมาเช็คอินกันหรือยัง? 6th โรงอาหารลานอิฐ หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา ลานอิฐมอตานี ” ม.อ. ถูกมองว่าเป็นสถานที่ศึกษาที่ มาแล้วอ้วนเพราะอาหารที่นี่ มีความสดใหม่ ราคาถูก จุใจไปเลยสำหรับ “สายเปิบ” ทั้งหลาย ลองมาที่นี่ คุณจะได้รู้จักกับ “ห้องกระจก” งงซิท่า ว่ามันคืออะไร มันก็คือห้องโรงอาหารที่มีกระจกนั่นเอง โรแมนติกมากเวลาทานอาหารฮะ 7th ลานศรีบลู ในทุกๆเย็น สถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเต้นแอโรบิค นั่นคือ ลานสีบลู ลานในร่ม อยู่หลังลานอิฐ หลายๆกิจกรรมของหลายๆคนก็จัดขึ้นที่นี่ เป็นลานที่เอนกประสงค์มาก เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจริงๆฮะ 8th ฟิตเนสตึกพละ น้องรูเก้าเชื่อว่า ไม่ว่าใครๆก็อยากมีหุ่นฟิตและเฟิร์มกันทั้งนั้น น้องรูเก้ายังอยากจะฟิตเลย ใน ม.อ. เราเรื่องสุขภาพไม่เคยเป็นสองรองใคร มานี่เลย “ฟิตเนสตึกพละ” จ่ายเงินนิดหน่อยแต่อร่อยทุกหยาดเหงื่อ นึกภาพสาวๆหุ่นเฟิร์มๆหนุ่มหล่อกล้ามปูมายกน้ำหนัก วิ่งบนลู่วิ่ง เหงื่อหยดย้อยกันเลยทีเดียวน่ะจ๊ะ น่าเช็คอินมาก 9th สนามกีฬารวม น้องรูเก้าขอแนะนำลานกีฬาที่ไม่ใช่แค่ลานกีฬาแต่เป็นได้ทั้งลานกีฬาและลานกิจกรรมไม่ว่าจะเป็น กีฬาเก้าประสาน กีฬาเฟรชชี่และอีกมากมาย ที่นี่มีทั้งสนามเทนนิส สนามตะกร้อ สนามแบดมินตัน สนามบาสเกตบอล สนามวอลเล่ย์บอล เป็นต้นเยอะนาดนี้กับพื้นที่แค่นี้ ลองมาเช็คอินดูนะ 10th สนามกีฬาสาธิตฯ นี่ไม่ใช่สนามทดลอง นี่ไม่ใช่สนามชั่วคราวแต่นี่เป็นสนามสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นสนามที่อยู่ใกล้โรงเรียนสาธิตฯนั่นเอง สนามที่นี่ใช้ประกอบกิจกรรมในหลายๆกิจกรรมด้วยและกลายเป็นที่ออกกำลังกาย เป็นสนามฟุตบอลใหญ่และลานวิ่งใช้ออกกำลังกายทั้งบุคคลภายในและภายนอก มาเสียเหงื่อกันที่นี่และสุขภาพดีไปพร้อมกันนะฮะ เช็คอินเลย! 11th ลานพระบิดา ที่แรกและที่เดียวของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่มีรูปปั้นประดิษฐานพระบิดาทรงยืน และบรรยากาศที่นี่ถ้าถ่ายรูปในช่วงเช้าจะสวยงามเอามากๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของเด็ก ม.อ.ปัตตานีอีกด้วย มาสักการะและเช็คอินไปพร้อมกันนะฮะ 12th มุมจอห์นเอฟ น้องรูเก้าชอบมาอ่านหนังสือที่นี่ เพราะมันสงบเอามากๆเลย หอสมุดจอห์นเอฟแคเนดี้มีหนังสือทุกชนิดที่เราต้องการ ข้างนอกยังสงบ ถ้าได้เข้าไปข้างในจะสวยมาก สวยจริงๆน๊า ต้องเข้าไปดูเองเพราะว่ารูปภาพไม่สามารถอธิบายความอลังการได้ จูงมือน้องรูเก้าแล้วไปเช็คอินกันนะฮะ 13th ลานเเสงจันทร์ ลานกิจกรรมที่สำคัญของนักศึกษา ม.อ.ปัตตานี ในยามค่ำคืนจะเห็นพระจันทร์ชัดมาก โดยที่เรียกว่าลานแสงจันทร์เพราะไม่จำเป็นต้องมีแสงไฟที่นี่ก็สว่างได้ ยกเว้นคืนเดือนแรม แต่ ม.อ.เราก็ติดแสงไฟให้แล้วสำหรับนักรักสงบช่วงกลางคืน มาเช็คอินกันเลยฮะ 14th ลานบลูหูกระโจง สถานที่แห่งนี้มีผู้คนมากมายมาออกกำลังกาย เดินผ่านมาถ่ายรูปกันเต็มเลย น้องรูเก้าก็เคยมาถ่ายรูปเหมือนกันนะ สถานที่แห่งนี้ คือ ข้างตึกคณะพยาบาลศาสตร์ นั่นไงผนังตึกสีฟ้า กับบรรยากาศต้นหูกระโจงเขียวชอุ่ม น้องรูเก้าจึงตั้งชื่อจุดเช็คอินนี้ว่า “ลานบลูหูกระโจง” 15th View Sky Wide เอ๊ะ!! จุดเช็คอินจุดนี้มีด้วยหรอ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ก่อนถึงหอดูนก ม.อ.ปัตตานี ซึ่งในช่วงนี้จักรยาน OFO วิ่งเต็มเลย บรรยากาศที่นี่โดยเฉพาะในช่วงเย็น เราจะเห็นพระอาทิตย์ตกชัดเจน แสงสีสวยมาก มาเช็คอินกับน้องรูเก้านะฮะ 16th หอดูนก ม.อ.ปัตตานี จุดเช็คอินจุดสุดท้าย น้องรูเก้าขอเสนอสถานที่ศึกษาธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าชายเลนนานาชนิดและบรรยากาศที่นี่เขียวชอุ่ม อากาศที่เต็มไปด้วยออกซิเจนมากมาย แต่น้องรูเก้าไม่แนะนำให้มาตอนกลางคืนเพราะที่นี่เปลี่ยวมากและอาจจะเจอ... ว่างๆลองมาเช็คอินด้วยกันสิฮะ

ยินดีต้อนรับนักอ่านทุกคน สู่โลกอันสดใสใน “รูดีดี” กับน้องรูเก้าฮะ ในรูนี้จะมีแต่เรื่องราวดี ๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มานำเสนอให้กับนักอ่านทุกคนฮะ น้องรูเก้ารับรองเลยฮะ ว่าถ้านักอ่านทุกคนได้รับชมเรื่องราวดี ๆ ที่น้องรูเก้าจะนำเสนอให้ดูในรูนี้ทุกคนจะต้องยิ้ม และมีความสุขแน่นอนฮะ ถ้าพร้อมแล้วก็ตามน้องรูเก้ามาเลยฮะ! เรื่องราวดีดี...วันรับน้อง ถ้าพูดถึงเรื่องรับน้องแล้วนักอ่านบางคนอาจจะทำหน้าเบื่อกัน...แต่ว่าอย่าพึ่งรีบเบื่อนะฮะ รอรับชมเรื่องราวรับน้องที่สุดแสนจะสร้างสรรค์ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ที่น้องรูเก้าจะนำเสนอให้รับชมก่อน! หลาย ๆคนอาจคิดในใจว่ารับน้องมหาวิทยาลัยนี่มันดีอย่างไร? สร้างสรรค์ตรงไหน? อันดับแรก รับน้องมหาวิทยาลัยทำให้เราได้ “เพื่อน” นักอ่านบางคนอาจจะคิดว่าแค่เพื่อนจะหาตอนไหนก็ได้ แต่น้องรูเก้าขอบอกว่า...ไม่เสมอไปหรอกนะฮะ! การที่เราได้ทำกิจกรรมร่วมกับคนต่างที่มา ต่างคณะ ต่างนิสัย ทำให้เราได้เรียนรู้คนหลายรูปแบบ และยังทำให้เราได้เจอคนที่มีเคมีตรงกับเราด้วย! ถึงแม้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปเราก็จะเจอกับคนในคณะตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่น้องรูเก้าว่าต้องมีสักวันที่เราต้องขอความช่วยเหลือเพื่อนต่างคณะ เวลานั้นแหละฮะ ที่เพื่อนที่ได้จากการรับน้องจะมีความสำคัญ! ไม่ใช่แค่เฉพาะเวลามีปัญหา แต่เวลาเฮฮา สนุกสนาน ก็สามารถจะสนุกไปด้วยกันได้นะฮะ เพราะฉะนั้นถ้าหากนักอ่านคนไหนมารับน้องแล้วเจอเพื่อนที่เรารู้สึกว่าใช่! ก็อย่ารอช้า เข้าไปทำความรู้จักเลยฮะ อันดับสอง รับน้องมหาวิทยาลัยทำให้เราได้ “ประโยชน์” การรับน้องมหาวิทยาลัยจะทำให้นักอ่านทุกคนได้ค้นพบความสามารถบางอย่างที่ตัวคุณเองก็อาจจะไม่รู้ว่าคุณมีความสามารถนี้อยู่ เช่น ทักษะการทำเกษตร ทักษะการซ่อมบำรุง ทาสี ทักษะความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น เพราะทางมหาวิทยาลัยจะมีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ให้นักศึกษาได้ร่วมมือ ร่วมใจกันทำฮะ นักอ่านบางคนที่อาจรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้น่าเบื่อ แต่น้องรูเก้าอยากให้ทุกคนมาได้ลองฮะ บางครั้งการได้ทำอะไรที่แปลกใหม่ ที่ไม่เคยได้ทำในชีวิตประจำวัน ถึงแม้จะดูเหนื่อยแต่ถ้าได้ลองทำคุณอาจจะรู้สึกสนุกก็ได้นะฮะ เพราะน้องรูเก้าก็เคยไปช่วยพี่ ๆ นักศึกษาทาสี น้องรูเก้ายังรู้สึกว่าสนุกมาก ๆ เลยฮะ และนอกจากจะได้ทักษะ ความสนุก ก็ยังได้ทำเพื่อสังคมด้วยนะฮะ! ถ้ามีโอกาสคราวหน้าน้องรูเก้าก็อยากจะชวนนักอ่านทุกคนมาทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วยกันนะฮะ! การรับน้องไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะฮะ ความสร้างสรรค์ของการรับน้องก็จะแตกต่างกันตามคณะเลยฮะ อาจจะมีร้องเพลง เล่นสี สันทนาการ ให้นักศึกษาที่เข้าร่วมได้รับความสนุก และความเป็นกันเองกับคนในคณะมากขึ้น แต่สำหรับบางคนที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้ ทางคณะก็ไม่ได้มีการบังคับให้เข้ารับน้องนะฮะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และความชอบของทุกคนฮะ! เรื่องราวดีดี...วันบายซีเนียร์ “ เป็นงานรื่นเริงที่มีแต่ความยินดี เป็นการจากลาด้วยน้ำตา และรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี ” เรื่องราวในครั้งนี้น้องรูเก้าจะพานักอ่านทุกท่านไปชมเรื่องราวดี ๆ ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และน้ำตาของความยินดีในวันงาน Good Bye Senior ของมหาวิยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วันงาน Good Bye Senior เป็นวันที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนนักอ่านทุกคนก็จะเห็นป้ายแสดงความยินดี เห็นงานเลี้ยง เพราะวันนี้เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีให้กับรุ่นพี่ที่กำลังจะเรียนจบฮะ โดยในงานก็มีการเลี้ยงสังสรรค์ และการพูดคุย การแสดง ของเหล่ารุ่นน้องที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีแก่รุ่นพี่ที่กำลังจะเรียนจบทุกคนฮะ สำหรับนักศึกษารุ่นน้อง งาน Good Bye Senior ก็เป็นอีกงานที่รุ่นน้องหลาย ๆ คนตั้งตาคอยเพราะในงานแต่ละปีจะมี Themeงาน ที่แตกต่างกันไปในแต่ละคณะ โดยรุ่นน้องหลาย ๆ คนก็จะมาประชันความสร้างสรรค์ของชุดตัวเองภายในงาน นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย ๆ ให้รับประทาน มีการแสดงแปลกใหม่ให้ได้รับชมทุก ๆ ปี รุ่นน้องบางกลุ่มก็เตรียมการแสดงเพื่อมาแสดงความยินดีให้กับรุ่นพี่ และมีซุ้มสวย ๆ สำหรับถ่ายรูปกับรุ่นพี่ สำหรับนักศึกษารุ่นพี่ที่กำลังจะเรียนจบ งาน Good Bye Senior ก็เป็นเหมือนอีกความทรงจำที่ดี เพราะเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับทุกคนในคณะครั้งสุดท้ายก่อนจะจบกันออกไป ได้พูดคุยกับรุ่นน้องที่น่ารัก ได้รับชมการแสดงที่ทำให้มีความสุข ได้ใส่ชุดครุยมาถ่ายรูปกับอาจารย์ และน้อง เป็นเหมือนการเก็บภาพความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนที่จะจากกัน Good Bye Senior ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่นักศึกษาแต่ละคณะไม่ควรจะพลาด และเป็นอีกวันที่ให้ความรู้สึกซาบซึ้ง อบอุ่น มีความสุข ให้กับทุก ๆ คนในงาน นอกจากนี้ก็ยังเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่น้องรูเก้าคิดว่าเราไม่ควรที่จะลืม และไม่ควรพลาดฮะ! เรื่องราวดีดี...วันประชุมเชียร์ เฮ! ฮา! เรามาเชียร์! ขอต้อนรับ! นักอ่านทุกคน! เป็นไงฮะนักอ่านทุกคน เพลงเชียร์ของน้องรูเก้าเพราะไหมฮะ ในวันนี้น้องรูเก้าจะพานักอ่านทุกคนมาชมเรื่องราวดี ๆ ในวันประชุมเชียร์มหาวิทยาลัยกันฮะ นักอ่านรู้ไหมฮะว่า กิจกรรมประชุมเชียร์คือกิจกรรมอะไร ? ถ้ายังไม่รู้ก็ตามน้องรูเก้ามาเลยฮะ! กิจกรรมประชุมเชียร์ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมรับน้อง รายละเอียดของกิจกรรมคือ เป็นการประชุมของรุ่นน้องชั้นปีที่ 1 ที่มีรุ่นพี่คอยดูแลอีกที โดยการประชุมในครั้งนี้จะเป็นการฝึกซ้อมร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัย และทำท่าทางไปพร้อม ๆ กันทุกคน แล้วหลังจากนั้นก็จะนำนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ทุกคณะมาร้องเพลง และทำท่าประชันกัน โดยเพลงจะต้อง เป๊ะ! ท่าจะต้อง “ปัง” เสียงจะต้อง “ดัง” ฟังชัด หากทำไม่ได้ก็ต้องร้องใหม่ทั้งหมดฮะ ซึ่งการประชุมเชียร์ของวิทยาเขตปัตตานีของเรา ที่ฮิตติดเทรนจนทุกคนต้องร้องได้ คงหนีไม่พ้นเพลง “ทิพย์สถาน” ทิพย์สถาน... วิมานที่เราอยู่...คือรูสะมิเเล กระหึ่มไปด้วยเสียงปรบมือที่พร้อมเพรียง หรือไม่ก็เพลง “เขตรั้วสีบลู” เขตรั้วสีบลู สร้างความชื่นชู ณ รูสะมิเเล น้อมดวงเเด ด้วยรักเเท้เเละเเน่นอน.. อีกทั้งเพลงที่หลายๆคนชอบน่าจะเป็นเพลง “ยังไม่ลืมศรีตรัง” วันแสนชื่นไม่คืนดังฝัน เสียดายวันสุขสันต์ นับวันร้างไปไกลห่าง.. เเละยังมีอีกหลายๆเพลงเลย นักอ่านทุกท่านสามารถเข้าไปหาฟังได้ที่ : http://pr.pn.psu.ac.th/song มีทั้งเนื้อร้องเเละฟังเพลงได้ด้วยฮะ นักอ่านทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราจะต้องมาทำกิจกรรมที่ต้องเหนื่อยแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้ว กิจกรรมประชุมเชียร์ เป็นกิจรรมที่ช่วยสร้างความสามัคคีในคณะนะฮะ น้องรูเก้ารู้สึกประทับใจทุกครั้งที่น้องรูเก้าได้ไปชมการประชันเชียร์ของคณะต่าง ๆ เลยฮะ ความพร้อมเพรียง เพลงที่ไพเราะ ท่าทางที่ปังมาก ทำให้ไม่ว่าใครที่ได้เห็นก็ต้องหยุดดูจนจบ! น้องรูเก้าก็อยากจะชวนให้นักอ่านทุกท่านมาร่วม หรือชมกิจกรรมนี้กันนะฮะ เพราะถ้าไม่ได้มาชม น้องรูเก้าคิดว่ามันเป็นการพลาดโอกาสมาก ๆ เรื่องราวดีดี...วันบายเฟรชชี่ ค่ำคืนเเห่งความสามารถ สู่เส้นทางการเติบโต ถ้าพูดถึงค่ำคืนสดใสที่ประดับไปด้วยแสงสีตระการตา การแสดงหลากหลาย อาหารอร่อย ของที่ระลึกมากมาย ก็คงจะต้องนึกถึงวันแห่งความอิสระ วัน GoodBye Freshy GoodBye Freshy เป็นกิจกรรมที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จัดขึ้นเพื่อบอกลาการเป็นน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยแล้วเลื่อนขั้น กลายเป็นรุ่นพี่ในปีต่อไป ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่น้องรูเก้าชอบมาก ๆ เลยฮะ เพราะเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นมาได้ยิ่งใหญ่ และสวยงามในทุก ๆ ปีเลยฮะ อีกอย่างกิจกรรม GoodBye Freshy ยังเป็นกิจกรรมที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ทุกคณะทุกสาขาได้เปิดหัวใจที่จะสร้างงาน สร้างกิจกรรมด้วยตนเองอีกด้วย ในส่วนของการเริ่มงานมีการเปิดตัวพิธีกรที่อลังการมาก ผู้ที่เป็นพิธีกรจะภาคภูมิใจมาก เช่นเดียวกับตอนรับสมัครที่มีผู้คนหลั่งไหลมาสมัครมากมาย เเล้วการเเสดงภายในงานมีกันทุกคณะเลยทีเดียว น้องรูเก้าอยากจะย้อนเวลากลับไปจริงๆเลยฮะ กิจกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงทักษะ ความสามารถของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่สามารถจัดงานดี ๆ ขึ้นได้ด้วยกำลังของตนเอง เป็นกิจกรรมที่ถ้าใครไม่มาถือว่าพลาดมากเลยฮะ! เพราะเราจะได้ทั้งรับประทานอาหารอร่อย ๆ ได้ดูการแสดงที่หลากหลาย มีของที่ระลึกมากมาย และงานก็สวยมาก เรื่องราวดี ๆ แม้จะเป็นอดีตหรือปัจจุบันก็ยังคงเป็นเรื่องราวดี ๆ หลังจากนักอ่านทุกท่านได้อ่าน “รูดีดี” จบแล้ว น้องรูเก้าก็ขอให้เรื่องราวที่ได้นำเสนอให้ชมในวันนี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีของนักอ่านทุก ๆ ท่านนะฮะ สำหรับช่วง “รูดีดี” ในวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ แต่ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งไปไหนนะฮะ เพราะยังมีรูต่อไปรอคุณอยู่ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นรูอะไร ก็ตามน้องรูเก้ามาเลยฮะ!

สวัสดีฮะ นักอ่านทุกคนผมมีชื่อว่า “น้องรูเก้า” ในวันนี้ผมจะพานักอ่านไปเยี่ยมชมรูต่างๆในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และรูแรกที่ผมจะพาไปเยี่ยมชมคือ “รูน่าเข้า” ฮะ สำหรับรูนี้น้องรูเก้าจะพาไปดูคณะที่น่าสนใจต่างๆภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตอนนี้นักอ่านทุกคนคงอยากรู้แล้วว่าใน “รูน่าเข้า” นี้น่าสนใจ และน่าเข้าตรงไหน ถ้าอย่างนั้นตามน้องรูเก้ามาเลยฮะ!! คณะศึกษาศาสตร์ เมื่อพูดถึงคณะนี้ น้องรูเก้าคิดว่านักอ่านทุกคนก็คงจะคิดถึงอาชีพ “ครู” ใช่ไหมฮะ? ถ้านักอ่านคนไหนมีความฝันอยากจะเป็นครู น้องรูเก้าขอแนะนำให้มาเรียนที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีเลยฮะ เพราะที่คณะนี้จะสอนเกี่ยวกับ ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ และการเรียนรู้ของมนุษย์ ทำให้เราเข้าใจวิธีการเรียนรู้ของมนุษย์มากขึ้น และทำให้เราเป็นครูที่ดีของนักเรียนได้ด้วยนะฮะ ไม่เพียงเท่านี้ในคณะนี้ยังมีภาควิชาย่อยที่แบ่งตามความสนใจของนักอ่านแต่ละคนเลยนะฮะ โดยแบ่งออกเป็น 7 ภาควิชา คือ (1) ภาควิชาการศึกษา (2) ภาควิชาการบริหารการศึกษา (3) ภาควิชาจิตวิทยาและการแนะแนว (4) ภาควิชาประเมินผลและวิจัยทางการศึกษา (5) ภาควิชาพลศึกษา (6) ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา (7) โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมีโรงเรียนอนุบาลสาธิตฯ เป็นหน่วยงานภายใน นอกจากเรื่องเรียนแล้วการแต่งกายของนักศึกษาคณะนี้ยังมีเอกลักษณ์ในเรื่องของการแต่งกายตามระเบียบ เป็นคณะที่แต่งกายเรียบร้อยมาก เสื้อประจำคณะของนักศึกษาคณะนี้จะมีสีแสดกับสีขาว โดยเวลาแต่งกายไม่ว่าจะเรียนอยู่ปีไหนก็ต้องใส่เสื้อคณะกับกางเกงวอร์ม ใส่รองเท้าผ้าใบ และใส่เสื้อในกางเกง เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับรุ่นน้องทุกคนให้สมกับเป็นคณะของคนที่จะจบมาเป็นคุณครูผู้ซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนในสังคมจริงๆนะฮะ น้องรูเก้าชื่นชมเลยฮะ! คณะมนุษยศาสตร์เเละสังคมศาสตร์ Hello หนีห่าว อันยองฮาเซโย สวัสดีฮะ! ตอนนี้นักอ่านทุกคนคงจะงงว่าทำไมน้องรูเก้าถึงทักทายหลายภาษาใช่ไหมฮะ? นั่นก็เพราะว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ที่คณะที่มีความหลากหลายด้านภาษาและวัฒนธรรมฮะ ใครที่มีความฝันอยากทำอาชีพ นักจัดการโรงแรม แอร์โฮสเตส ล่าม มัคคุเทศก์ จัดการธุรกิจท่องเที่ยว เจรจาธุรกิจระหว่างประเทศ บรรณาธิการ ศิลปิน ฯลฯ ก็สามารถมาเรียนที่ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีได้ฮะ เพราะที่นี่จะเรียนเกี่ยวกับความสามารถด้านต่างๆ ของมนุษย์ ตั้งแต่ภาษา การสื่อสาร การเข้าใจจิตใจและการกระทำของมนุษย์ ศิลปวัฒนธรรม คนที่จบคณะนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นคนสามารถเข้าใจและปฏิบัติต่อผู้อื่นได้อย่างดี และเป็นคนที่พูดเก่ง สื่อสารได้อย่างมีแรงดึงดูดฮะ โดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จะมีการแบ่งหลักสูตรเป็น 5 หลักสูตรและบางหลักสูตรก็จะมีสาขาย่อยตามความสนใจ และความถนัดของนักอ่านดังนี้ 1. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) 2. หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) 3. หลักสูตรเศรษฐศาสตรบัณฑิต (ศ.บ.) 4. หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตรบัณฑิต (สส.บ.) 5. หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) นอกจากจะเรียนเกี่ยวกับภาษา วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สังคม ภูมิศาสตร์ ธุรกิจที่หลากหลายแล้ว เอกลักษณ์ของชุดประจำคณะก็ยังเป็น ชุดที่มีสีหลักคือสีขาว และจะมีตราประจำคณะที่มีลักษณะคล้ายคนปักไว้อยู่ที่ข้างแขนเสื้อฮะ โดยนักศึกษาที่เรียนคณะนี้แต่ละสาขาก็จะมีลักษณะนิสัยแตกต่างกันเลยนะฮะ บางสาขาก็จะดูไฮโซ บางสาขาก็จะดูติดดิน ลักษณะการแต่งกายก็มีตามแฟชั่น และถูกระเบียบบ้าง ถือเป็นคณะที่รวมความหลากหลายไว้ในที่เดียวเลยฮะ! คณะวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี นักอ่านทุกท่านฮะ! มาที่คณะนี้แล้วเห็นคนใส่เสื้อกาวสีขาวอยู่ในคณะก็อย่าตกใจนะฮะ เพราะคณะที่เรากำลังอยู่ตอนนี้เป็นคณะของเหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายฮะ นักอ่านคนไหนที่มีความฝันอยากทำอาชีพ ที่ทำงานอยู่ในห้องทดลอง คอยทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ผสมสารเคมี หรือทำการทดลองต่างๆ น้องรูเก้าขอแนะนำ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีเลยฮะ เพราะคณะนี้จะเรียนเกี่ยวกับธรรมชาติ องค์ประกอบต่าง ๆ ในธรรมชาติ การคำนวณตัวเลข คณิตศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยภาควิชาของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีจะแบ่งออกเป็น 10 ภาควิชาตามความถนัดของแต่ละคนที่ต้องการมาเรียนคณะนี้ คือ 1. ภาควิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์ 2. ภาควิชาเคมี-ชีววิทยา 3. ภาควิชาเคมีอุตสาหกรรม 4. ภาควิชาฟิสิกส์ 5. ภาควิชาเทคโนโลยีการเกษตร 6. ภาควิชาเทคโนโลยีการประมง 7. ภาควิชาเทคโนโลยียาง 8. ภาควิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ 9. ภาควิชาวิศวกรรมเคมี 10. ภาควิชาวิทยาศาสตร์นิเทศ แค่เห็นชื่อภาควิชาแต่ละภาคแล้วน้องรูเก้าก็รู้สึกชื่นชมคนที่เรียนคณะนี้เลยนะฮะ! เพราะแต่ละภาควิชาก็ไม่ได้เรียนง่ายๆ ถ้าคนที่ไม่มีความตั้งใจ และต้องการเรียนด้านนี้จริงๆ คงจะเรียนยากเลยนะฮะ น้องรูเก้าขอปรบมือชื่นชมให้กับ พี่ๆคนเก่งในคณะนี้เลยฮะ ! คณะศิลปศาสตร์ ใครชอบเล่นดนตรี ชอบศิลปะ ออกแบบ ชอบการแสดง น้องรูเก้าขอเชิญทางนี้เชิญมาที่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพราะที่คณะนี้จะเรียนเกี่ยวกับศิลปะ และการประยุกต์ศิลป์ เช่น การวาดภาพ การออกแบบปั้น การออกแบบเครื่องแต่งกาย การพิมพ์ การเล่นดนตรี และการรำ และอื่นๆอีกมากมายฮะ เป็นคณะที่เหมาะกับคนที่อยากทำอาชีพเกี่ยวกับ นักออกแบบ ครูสอนศิลปะ/แฟชั่น ศิลปิน หรืออาชีพที่เกี่ยวกับศิลปะ โดยแขนงวิชาของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี แบ่งออกเป็น 3 แขนงหลัก และในแต่ละแขนงวิชาก็จะมีวิชาเรียนที่แตกต่างกันตามประเภทของศิลปะในแขนงวิชานั้นๆ เช่น 1. แขนงวิชาออกแบบประยุกต์ศิลป์ เรียนเกี่ยวกับ ประติมากรรมประยุกต์ จิตรกรรมประยุกต์ ภาพพิมพ์ประยุกต์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ ฯลฯ 2. แขนงวิชาการออกแบบแฟชั่นและเครื่องแต่งกาย เรียนเกี่ยวกับ ออกแบบเครื่องแต่งกาย / ลายผ้า / เครื่องประดับ การนำเสนอแฟชั่นโชว์ 3. แขนงวิชาทัศนศิลป์ เรียนเกี่ยวกับ จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สุนทรียศาสตร์ แต่สำหรับคนที่อยากเรียนเกี่ยวกับดนตรี การแสดง ก็ไม่ต้องผิดหวังนะฮะ เพราะน้องรูเก้ารู้มาว่าในคณะยังมีวิชาโทที่เกี่ยวกับ ศิลปะการแสดงและดนตรีวิจักขณ์ด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนมีโอกาสได้เรียนแน่นอน นอกจากเรื่องเรียนแล้วเอกลักษณ์การแต่งกายของคณะศิลปกรรมศาสตร์ก็มีเอกลักษณ์เหมือนกันนะฮะ คณะนี้จะมีเสื้อประจำคณะซึ่งมีลักษณะเป็นสีเหลือง เทา ขาว มีรูปหน้าตึกคณะที่บริเวณชายเสื้อข้างหลัง และมีชื่อคณะเป็นทรงโค้งอยู่ข้างหลับแถบบน ถือเป็นเสื้อประจำคณะที่มีเอกลักษณ์สมกับเป็นเด็กศิลป์เลยนะฮะ แต่ว่ามีพี่ๆจากคณะนี้มาบอกน้องรูเก้าว่า ถึงจะมีเสื้อคณะที่สวยขนาดไหนแต่คนคณะนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใส่กันฮะเพราะเสื้อคณะนั้นเปื้อนง่าย เลยจะใส่เฉพาะวันสำคัญเท่านั้น แต่ในวันปกติจะใส่เสื้อสีทึบๆฮะ เพราะว่าเวลาทำงานมันสะดวกกว่า น่าเสียดายจังเลยนะฮะ! คณะวิทยาการสื่อสาร ว้าว ว้าว ว้าว! นักอ่านทุกท่านฮะ! ตอนนี้น้องรูเก้ากำลังพานักอ่านทุกท่านมาชมคณะที่ขึ้นชื่อเรื่องการสื่อสารและนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยฮะ นั่นก็คือ คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี หนึ่งในจุดเด่นที่บ่งบอกว่าคณะนี้มีความทันสมัยก็คือ ลิฟต์ เพราะเป็นคณะเดียวที่มีลิฟต์ใช้ฮะ และยังเป็นศูนย์รวมของเทคโนโลยีสารสนเทศด้วยฮะ คณะวิทยาการสื่อสารเหมาะกับคนที่ชอบพูด ชอบสื่อสาร ชอบออกแบบสื่อต่างๆ หรือสนใจด้านเทคโนโลยี การพัฒนา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร น้องรูเก้าขอแนะนำคณะนี้เลยฮะ เพราะในคณะนี้มีสาขาวิชาอยู่ 3 สาขาหลักๆ คือ 1. สาขานิเทศศาสตร์ เป็นสาขาที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากทำอาชีพ นักข่าว นักประชาสัมพันธ์ Creative นักสื่อสารการตลาด งานเบื้องหลังสื่อต่างๆ เป็นต้น 2. สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการจัดการ เป็นสาขาที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากทำอาชีพ โปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ หรืองานอื่นๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น 3. สาขาวิชานวัตกรรมการออกแบบและสร้างสรรค์สื่อ เป็นสาขาที่เหมาะกับผู้ที่อยากทำอาชีพ นักสร้างการ์ตูน 2D 3D นักออกแบบกราฟฟิก หรือเว็บ ผู้กำกับศิลป์ เป็นต้น เป็นไงฮะ! แต่ละสาขาน่าสนใจมากๆเลยใช่ไหมฮะ นอกจากสาขาวิชาที่น่าสน ใจแล้วเอกลักษณ์ของนักศึกษาที่เรียนคณะนี้แต่ละสาขาก็มีความแตกต่างกันด้วยนะฮะ เช่น คนที่เรียนนิเทศศาสตร์ก็มักจะชอบพกกล้อง ชอบแต่งตัวตามสไตล์ของตัวเอง คนที่เรียนนวัตกรรมการออกแบบและสร้างสรรค์สื่อบางคนก็จะพกไม้กระดานสำหรับวาดรูป หรือพกอุปกรณ์ศิลปะ ชอบแต่งตัวแนวอาร์ตๆ สบายๆฮะ ส่วนคนที่เรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการจัดการก็ก็มักจะใส่ชุดประจำสาขาซึ่งจะมีชื่อสาขาปักอยู่ฮะ แต่ทั้งสามสาขาจะมีชุดประจำคณะอยู่นะฮะ บางครั้งเราก็จะเห็นบ่อยๆเวลามาคณะนี้ เป็นเสื้อสีขาวปนชมพู มีตรามหาวิทยาลัยอยู่บนอกซ้าย และมีชื่อคณะภาษาอังกฤษปักอยู่ข้างหลังเสื้อฮะ คณะนี้ไม่ได้ทันสมัยแค่คณะนะฮะ แต่นักศึกษาทุกคนก็น่ารัก และทันสมัยเหมือนกับคณะเลยฮะ ! คณะรัฐศาสตร์ ขอต้อนรับ นักอ่านทุกท่านเข้าสู่คณะของผู้นำฮะ! ใครที่มีความฝันอยากทำงานด้านราชการเป็นปลัดอำเภอ ทำงานในกระทรวงเป็นนักการทูต และอื่นๆอีกมากมาย น้องรูเก้าขอแนะนำ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพราะที่นี่จะเรียนเกี่ยวกับ การปกครอง การเมือง กฎหมายต่างๆ และที่คณะเเห่งนี้มีสาขาวิชาที่เตรียมพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำอยู่ 3 สาขา คือ ... 1. การปกครองส่วนท้องถิ่น 2. นโยบายสาธารณะ 3. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นักศึกษาที่เรียนอยู่คณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ค่อนข้างกล้าแสดงออก และมีความเป็นผู้นำฮะ! เพราะ สัญลักษณ์ของคณะนี้คือ สิงห์ ซึ่งมีความหมายว่า ผู้นำ ฮะ ส่วนเอกลักษณ์การแต่งตัวของนักศึกษาคณะนี้คือ จะใส่เสื้อประจำคณะสีน้ำเงิน และมีสัญลักษณ์สิงน้ำเงินติดอยู่ที่ด้านขวาของเสื้อฮะ สมกับเป็นคณะของผู้นำจริงๆเลยนะฮะ! คณะพยาบาลศาสตร์ นักอ่านทุกท่านฮะ! พอมาถึงที่คณะนี้อยู่ๆ น้องรูเก้าก็รู้สึกป่วยเลยฮะ น้องรูเก้าอยากให้พี่คนสวย พี่คนหล่อใจดีตรงนั้นมารักษาน้องรูเก้าจัง! เห็นแบบนี้แล้วนักอ่านทุกท่านคงรู้แล้วใช่ไหมฮะว่าเรากำลังอยู่ในคณะของนางฟ้า นั่นก็คือ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี คณะนี้ก็จะสอนเกี่ยวกับศาสตร์การรักษาดูแลผู้ป่วยฮะ ใครที่อยากเป็นนาง / บุรุษ พยาบาลก็มาเรียนคณะนี้ได้เลยนะฮะ สำหรับเอกลักษณ์ของนักศึกษาคณะนี้ก็ดูง่ายมากๆเลยฮะ เพราะนักศึกษาคณะนี้จะใส่ชุดพยาบาลกันฮะ ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะเป็น เสื้อ และหมวกพยาบาลสีขาว เอี๊ยมสีฟ้า ส่วนผู้ชายก็จะเป็นเสื้อขาวฮะ สีขาวเป็นสีประจำคณะพยาบาล เห็นพี่ๆ นักศึกษาคณะนี้แล้ว น้องรูเก้าก็รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางนางฟ้าเลยฮะ เพราะพี่ๆทุกคนน่ารัก และใจดีมากๆเลยฮะ! คณะวิทยาการอิสลาม ตอนนี้เราก็อยู่ในจุดสุดท้ายของรูน่าเข้านะฮะ! คณะสำหรับนักอ่านชาวมุสลิมที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับ ศาสตร์ของอิสลาม การประยุกต์ศาสตร์อิสลามกับการเมือง การปกครอง น้องรูเก้าขอแนะนำ คณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สำหรับนักอ่านชาวมุสลิมที่ไม่สามารถพูดภาษามลายูได้ และกลัวที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ ไม่ต้องกลัวนะฮะ เพราะที่นี่มีนักศึกษามุสลิมที่มาจากหลายจังหวัด มีทั้งคนที่พูดได้แค่ภาษาไทย หรือพูดภาษาอื่นได้ และยังมีโปรแกรมเรียนที่เป็นภาษาไทยด้วย หายห่วงได้เลยฮะ! วิทยาลัยอิสลามมีสาขาอยู่ 5 สาขา คือ 1.การสอนอิสลาม 2.ตะวันออกกลาง 3.อิสลามศึกษาโปรแกรมไทย 4.อิสลามศึกษานานาชาติ 5.เศรษฐศาสตร์ พี่ๆ นักศึกษาที่เรียนคณะนี้จะแต่งตัวมิดชิด เรียบร้อยทุกคนเลยฮะ และพี่ๆ ที่นี่จะมีชุดที่ชอบใส่กัน คือ ชุด ‘บาจู กุรง’ ฮะ เป็นอีกชุดที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวมุสลิมเลยฮะ ชุดของผู้ชายก็จะเป็นเสื้อแขนยาว คอกลมหรือคอจีน ใส่กางเกงขายาว มีผ้าคลุมรอบเอว หรือใส่ผ้าโสร่งแทนกางเกงก็ได้ฮะ ส่วนผู้หญิงก็จะเป็นเสื้อยาวถึงเข่า แขนยาว มีกระโปรงยาวคลุมตาตุ่ม แล้วก็ใส่ผ้าคลุมฮะ! ถือเป็นวิทยาลัยต้นแบบของนักศึกษาที่แต่งตัวเรียบร้อยเลยนะฮะ! น้องรูเก้าขอชื่นชมเลย!

นิตยสาร “ รูฯ ” เป็นชื่อนิตยสารที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำบล รูสะมิแล ซึ่งเป็นตำบลที่อยู่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยนักอ่านสามารถเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวหลากหลายแบบ หลากหลายอารมณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวน่าตื่นเต้นจาก รูน่าเข้า เรื่องราวน่าเที่ยวใน รู Check In เรื่องราวดี ๆจาก รูดีดี เรื่องราวลึกลับจาก รูลับลับ และยังมี รู Gallery ที่รวมภาพถ่าย ณ สถานที่ต่าง ๆ ใน มหาวิทยาลัยแห่ง นี้ราวกับว่าตัวนักอ่านได้มาสัมผัสประสบการณ์โดยตรง นอกจากจะแนะนำเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านรูต่าง ๆ แล้ว นิตยสารรูฯ ก็ยังมีตัวละครที่เป็นหัวใจหลักของนิตยสารมีชื่อว่า “ น้องรูเก้า ” โดยตัวละครนี้จะคอยทำหน้าที่เป็นผู้นำทางนักอ่านไปยังรูต่างๆ และทำหน้าที่อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ให้นักอ่านสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และด้วยบุคลิกนิสัยที่น่ารักของ “ น้องรูเก้า ” อาจจะทำให้นักอ่านหลาย ๆ ท่านต้องตกหลุมรักตัวละครนี้ไปพร้อมกับนิตยาสาร รูฯ เล่มนี้ ไกรเลิศ โออิฐ “รู” ย่อมาจากคำว่า “รูสะมิเเล” ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี แปลว่า “สนเก้าต้น” “ฯ” คือ ไปยาลน้อย ที่เมื่อนำมาประสมกับคำว่า “รูฯ” คือ “รูสะมิเเล” เเล้ว ฯ ยังคล้ายกับเลขเก้า จึงมีความหมายเเฝงอีกว่า “สนเก้าต้น” เเล้วในนิตยสารเล่มนี้มีทั้งหมด 9 รู 9 สาระ อีกทั้งไกด์นำท่องหนังสือชื่อ “น้องรูเก้า” อีกด้วย “PRINCE OF SONKLA UNIVERSITY” เป็นชื่อมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ใช้อักขระเป็นอักษรใหญ่ “PATTANI CAMPUS” เป็นชื่อวิทยาเขตปัตตานี เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ใช้อักขระเป็นอักษรใหญ่ เพื่อความสวยงาม สวัสดีฮะ ผมชื่อ “น้องรูเก้า” เป็นไกด์ที่นำผู้อ่านทุกท่านไปท่องโลกกว้างของหนังสือ “รูฯ” เล่มนี้ รับรองว่าจะต้องชอบในเนื้อหาที่ผมมาเสนอเเน่นอน เหตุผลที่น้องรูเก้าใส่เสื้อสีบลู เพราะเป็นสีประจำมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ฮะ เสื้อเเขนสั้น ขาสั้นพร้อมที่จะเปิดโลกทรรศน์ที่กว้างใหญ่ รองเท้าก็ต้องเรียบร้อยเเละเเข็งเเรง ส่วนสีผมน้องรูเก้าชอบสีน้ำตาลเพราะว่ามองเเล้วรู้สึกอบอุ่น สีหน้าเเละเเววตาของน้องรูเก้า เข้ากับบริบทเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ ดูน่ารักสดใส ตาโต พร้อมที่จะมองโลกอย่างกว้างขวางอย่างสดใส หนังสือนิตยสาร “รูฯ” มีเล่มสีดำเงา มีความน่าเชื่อถือ ภายในหนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 9 รู 9 สาระ ถึงหน้าปกจะดูเข้ม เเต่เนื้อหาข้างใน โดนใจผู้อ่านเเน่นอน

ขอเชิญร่วมงาน! กิจกรรม ม.อ. วิชาการประจำปี 2561 (PSU Open House 2018) ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในวันที่ 6 – 7 กันยายน 2561 กิจกรรม ม.อ. วิชาการ เป็นกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทุกวิทยาเขตจัดขึ้นเพื่อแนะแนวคณะต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยให้ผู้เข้าชมภายนอกได้รู้จัก โดยธีมของม.อ.วิชาการประจำปี 2016 คือ ‘2561 ม.อ.วิชาการ นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน’ ซึ่งแต่ละวิทยาเขตมีวันเวลาจัดกิจกรรมแตกต่างกัน สำหรับม.อ. วิชาการประจำปี 2561 ที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จะจัดขึ้นในวันที่ 6 – 7 กันยายน 2561 โดยแต่ละคณะจะมีกิจกรรม และกำหนดการเป็นของตนเอง เช่น คณะศึกษาศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, คณะศิลปกรรมศาสตร์, คณะวิทยาการสื่อสาร, คณะรัฐศาสตร์, วิทยาลัยอิสลามศึกษา เป็นต้น และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมของคณะต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ประจำคณะ #กิจกรรมมหาวิทยาลัย #มอวิชาการ #มอปัตตานี #ปัตตานี #OpenHouse2018 #ข่าวภายในมหาวิทยาลัย #รูสะมิแล #พิราบรูฯ 19 สิงหาคม 2561